เรื่องที่ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เสียใจมากที่สุดตอนคุมทีมแมนยู 

        พูดถึงชื่อ   เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาคือตำนานกุนซือที่คุมทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาอย่างยาวนานเรียกได้ว่าเป็นกุนซือระดับครูเลยก็ว่าได้   เมื่อไม่นานมานี้ได้มีนักข่าวไปสัมภาษณ์เกี่ยวกับความรู้สึกของเซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสันในช่วงที่เขานั้นยังคงเป็นสื่อที่สามารถควบคุมทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดว่าเขาเคยมีความรู้สึกเสียใจหรือมีเรื่องยุ่งยากใจที่เขาไม่อยากจะทำบ้างหรือไม่

       แน่นอนว่าคำตอบของเซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสันนั้นก็ทำให้เราได้รู้ว่าถึงแม้ว่าเขาจะเป็นบุคคลในตำนานและมีความเชี่ยวชาญในเกี่ยวกับการคุมทีมและดูแลตัวเองเป็นอย่างดีแต่เขาก็เป็นบุคคลคนหนึ่งที่มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน    เพราะเขาเองก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาตอนที่เขายังเป็นผู้จัดการทีมให้กับทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดว่าโดยส่วนตัวแล้วเขาใช้ชีวิตในการคุมทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้นเป็นไปอย่างปกติเหมือนธรรมดาทั่วไป

             เพราะเขามองว่าอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวันนั้นมันก็เป็นแค่อุปสรรคของวันนั้นเราแก้ไขปัญหาจบวันใหม่ก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอนดังนั้นส่วนใหญ่แล้วเขาจะไม่ค่อยคิดมากในการทำงานเป็นผู้จัดการคุมทีมให้กับสโมสรปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากนักและก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าเขาลำบากใจในการทำงานนะแต่นิดเดียวเพราะเขามีรูปทีมที่ดีมีสต๊าฟที่คอยช่วยเหลืองานของเขาเป็นอย่างดีนั่นเอง

      แต่อย่างไรก็ตามในช่วงที่เขารู้สึกว่าเขาเสียใจกับการเป็นผู้จัดการทีมมากที่สุดของเขานั่นก็คือในช่วงที่เขาจะต้องไปบอกกับลูกทีมของเขาว่าเขาต้องหาทีมให้ลูกทีมของเขาย้ายไปอยู่ทีมอื่นซึ่งเขาจำได้ว่าในตอนนั้นเป็นช่วงประมาณปี ค.ศ. 1994

        ซึ่งลูกทีมแต่ละคนของเขานั้นเป็นนักเตะที่ดีมากเลยทีเดียวและทำงานร่วมกันกับเขามานานกว่า 10 ปีแล้วแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ทำให้เขาจำเป็นต้องหาทีมใหม่ให้กับลูกทีมของเขานั่นก็เพราะว่านับแต่แต่ละคนเมื่ออยู่ร่วมงานกันมานานก็อาจจะมีปัญหาอื่นๆตามมาอย่างเช่นปัญหาในเรื่องของอายุหรือปัญหาเรื่องของสุขภาพร่างกาย

         ซึ่งเขาจำเป็นที่จะต้องมีการนำนักเตะที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีอายุน้อยๆมาร่วมทีมเพื่อสร้างผลงานให้กับทีมในขณะที่คนรุ่นเก่าก็ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปและนี่เองคือความยากลำบากและความเสียใจที่สุดที่เขารู้สึกจากการทำงานเป็นผู้จัดการทีมเพราะเขาจะต้องมีการไปบอกลูกกินที่เขารักมากๆว่าเขาหาทีมอื่นให้กับลูกทีมของเขาได้แล้วและลูกทีมของเราย้ายไป 

       อย่างไรก็ตามการทำงานเป็นผู้จัดการทีมนั้นจำเป็นต้องเจอนักเตะใหม่ๆและเปลี่ยนนักเตะเก่าออกไปเรื่อยๆอยู่แล้วซึ่งมันเป็นธรรมดาดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เขาก็สามารถยอมรับกับมันได้

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.    ae บาคาร่า

Continue Reading

ชยาพิพัฒน์ เด็กไทย ร่วมทีมเอสโตริลยู -23  และได้แชมป์ลีกโปรตุเกส 

        นักเตะไทย อายุเพียง 20 ปี ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยการเป็นนักเตะให้กับทีมฟุตบอลในโซนยุโรปโดยเขาได้ร่วมงานกับทีม เอสโตริลยู -23  และทีมนี้สามารถเป็นแชมป์ของลีกโปรตุเกสได้ในฤดูกาลนี้นั่นเอง

       สำหรับนักฟุตบอลที่สร้างชื่อให้กับประเทศไทยอีกคนหนึ่งนั่นก็คือ ชยาพิพัฒน์  สุพรรณเภสัช  ซึ่งเขาเป็นนักเตะคนไทยแท้ที่ไม่ใช่ลูกผสมและได้มีโอกาสไปแสดงความสามารถด้วยการเข้าร่วมทีมเป็นนักเตะให้กับทีมสโมสรชื่อดังของฝั่งยุโรปโดยทีมสโมสรที่เข้าสังกัดอยู่นั้นคือทีม เอสโตริลยู -23  ซึ่งในขณะนี้นั้น ชยาพิพัฒน์อายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้นแต่ก็สามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยทีมของเขาที่เขาสังกัดอยู่นั้นในขณะนี้ได้เป็นแชมป์ลีกชุด u23 ของโปรตุเกส 

         สำหรับ ชยาพิพัฒน์นั้น เขาเป็นเด็กที่ชื่นชอบการแข่งขันฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กแล้วโดยเขาเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนหลังจากนั้นก็ได้เข้าร่วมโครงการที่จะมีการพับเนคไทไปฝึกฟุตบอลที่บาเยิร์นมิวนิคซึ่งโครงการดังกล่าวนั้นเป็นของอลิอันซ์โดยมีเด็กไทยทั้งหมด 11 คนที่ภายในโครงการดังกล่าวนั้นเอง

       แต่หลังจากที่เขาได้รับการคัดเลือกไปฝึกฟุตบอลที่บาเยิร์นมิวนิคเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยความสามารถของ ชยพิพัฒน์เอง  ก็ทำให้เป็นที่เข้าตาของทีมสโมสรดังๆหลายทีมหลังจากนั้นเขาก็ได้รับการติดต่อจากทีมฟุตบอลทีมหนึ่งของประเทศโปรตุเกสและยังมีทีมบราก้าซึ่งเป็นทีมดังอันดับต้นๆได้เหมือนกันแต่เนื่องจากว่าทางเอเย่นต์ที่ดูแลชยพิพัฒน์  ได้มีการพาเขาเข้าไปร่วมทีมสโมสรเอสโตริล ซึ่งเป็นทีมเยาวชน  หลังจากนั้นเขาก็แสดงผลงานได้ดีเสมอมาจนในที่สุดก็สามารถเข้าไปร่วมอยู่ในสังกัดทีมเอสโตริลยู -23  และสามารถที่จะพาทีมคว้าแชมป์ได้นั่นเอง 

           สำหรับชยพิพิพัฒน์นั้นไม่ใช่   สำหรับ ตำแหน่งที่เขาเล่นนั้นก็คือตำแหน่งกองกลางตัวตัดเอง  ซึ่งชยพิพัฒน์นั้นเป็นผู้เล่นหลักที่สามารถเล่นให้กับทีม เอสโตริลยู -23  ได้เป็นอย่างดีและทำให้ทีมของเขานั้นประสบความสำเร็จมีสิทธิ์เข้าไปแข่งขันในรอบสุดท้ายและมีโอกาสที่จะลงสนามแข่งขันกับทีมเยาวชนทีมดังดังทีมอื่นอื่น

นักฟุตบอลคนแรกที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยยังมีนักฟุตบอลอีกหลายคนที่มีโอกาสไปค้าแข้งกับทีมต่างต่างในต่างประเทศและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยทำให้ต่างประเทศรู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้นและรู้ว่าประเทศไทยนั้นมีนักกีฬาที่เก่งและมีความสามารถอยู่หลายคนเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย  เซ็กซี่ บาคาร่า ทดลอง

Continue Reading

เปิดตัว คู่ชกของตะวันฉาย เหยื่อรายแรกในศึกวัน   

          ในวันเสาร์ที่ 15 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2564 จะมีการแข่งขันชกมวย   One Championship    ในศึก one : dangal ซึ่งคู่ชกที่จะมีการเปิดซิงในการขึ้นชกไฟต์แรกนั่นก็คือคู่ของตะวันฉาย   PK  แสนชัยมวยไทยยิม   ซึ่งจะได้เจอกันกลับนักสู้จอมบู๊ที่จะรับอาสามาเป็นคู่ชกคู่กับตะวันฉายโดยนักชกคนนี้มาจากประเทศไอร์แลนด์ชื่อว่า  ฌอน แคลนซี 

        สำหรับการแข่งขันชกมวย   One Championship  ในศึก one : dangal  นั้น มวยคู่เอกจะขึ้นชกกันนั้นเป็นการชกกันระหว่างอาร์จาน บูลลาร์  โตเป็นนักมวยจากประเทศอินเดียในขณะที่คู่ชกของเขานั้นเป็นเจ้าของบัลลังก์เดิมนั่นก็คือ แบรนดอน เวรา ซึ่งเขาเป็นชาวกะตะร็อค   อย่างไรก็ตามในวันดังกล่าวนั้นยังมีคู่ชกเป็นคู่รองซึ่งเป็นนักชกชาวไทยซึ่งเป็นนักชกหน้ามนเป็นคนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและเป็นนักชกชาวไทยคนเดียวที่จะขึ้นชกในวันดังกล่าวด้วย  สำหรับวันนั้นซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นการชิงแชมป์โลกวันรุ่นเฮฟวี่เวท  

       อย่างไรก็ตามสำหรับการเปิดตัวนักชกที่จะต้องมาชกคู่กับตะวันฉายนั้นเขาเป็นนักชกที่เคยเปิดตัวการชกครั้งแรกของเขาเมื่อเดือนกันยายนปีพศ2563 โดยการชกนั้นเป็นการชกในศึกวันแชมเปียนชิพซึ่งในครั้งนั้นนักชกคนนี้ได้เจอกับพงษ์ศิริ  พีเค  แสนชัย   มวยไทยยิมและเขาสามารถเอาชนะพงษ์ศิริ  พีเค  แสนชัย ได้  ซึ่งนักชกคนนี้มีชื่อว่า  ฌอน แคลนซี  นั่นเอง 

       อย่างไรก็ตามในการขึ้นชกครั้งแรกของฌอน แคลนซี  นั้นเขาถูกคู่ชกของเขาชกมีแผลแตกยับเยินเลือดไหลโชค  และทางเจ้าหน้าที่สนามมวยต้องมีการส่งตัวของเขาไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการปฏิบัติทันทีซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ให้การรักษาพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วปรากฏว่าไม่ว่าจะเป็นทางด้านนักมวยที่ชื่อพงษ์ศิริหรือแม้แต่ฌอน แคลนซี  ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บและได้รับการเย็บแผลรวมกันแล้วถึง 60 เข็มเลยทีเดียว

          และการพบกันเมื่อปีพศ2563 ระหว่าง  ฌอน แคลนซี  กับพงษ์ศิริ  เรียกได้ว่ามีคนกล่าวขวัญถึงกันเป็นอย่างมากเพราะการชกในครั้งนั้นใครที่ได้ดูการแข่งขันในครั้งนั้นต่างก็ยกย่องว่าเป็นไฟต์ที่ยอดเยี่ยมแห่งปีเลยก็ว่าได้  และ สำหรับการชกที่มวยที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 15 เดือนพฤษภาคมที่กำลังจะถึงนี้เราคงต้องดูกันว่าตะวันฉายจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้และเป็นการแก้แค้นให้กับรุ่นพี่ในค่ายได้หรือไม่

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เว็บบาคาร่า sa ขั้นต่ำ 5 บาท

Continue Reading