ประวัติและกติกากีฬามวยสากลสมัครเล่น

มวยเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่ว่าเป็นศาสตร์ก็เพราะเป็นวิชาการที่ท่าน อาจจะศึกษาหาความรู้ได้เช่น วิชาแขนงอื่นๆ และเป็นศิลป์อย่าสูงของนักมวยคนหนึ่งก็ว่าได้ ดังที่ทุกท่านตระหนักดีว่า มวยเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกัน  ตัวอย่างหนึ่งตามธรรมชาติ 

ปัจจุบัน มีมวยอยุ้ 2 ประเภท คือ มวยปล้ำ และมวยชก แบ่งเป็น 2 แบบคือ

ชกด้วยหมัด บวกกับการต่อสู้ด้วยเท้าตามแบบมวยไทย และชาติเพื่อนบ้าน โดยชกด้วยหมัดเพียงอย่างเดียว อันเป็นที่นิยมกันทั่วโลก เรียกว่า มวยสากล (Boxing)

มวยสากลนั้นมีมาแต่ช้านานแล้วตามหลักฐานซึ่ง Sir Ather Evan ได้ค้นพบเศษรูปสลักของนักมวยโบราณ ซึ่งแยกออกเป็นชิ้นๆ ในปี พ.ศ.2443 ที่เมืองบอสซุส อันเป็นโบราณสถานเก่าแก่แห่งหนึ่งในเกาะครีตของประเทศกรีซ ทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากหลักฐานทำให้ทราบว่า มวยโบราณสมัยกรีก่อนคริสต์ศักราชแบ่งออกเป็น 3 ระยะ

ระยะแรกเป็นสมัยของโฮมเมอร์ กติกามีเพียงเล็กน้อย จุดประสงคืของมวยตอนนั้นเพื่อป้องกันมือของผู้ชก แต่มีเข้มแข็ง กล้าหาญ

ระยะที่สอง มีการดัดแปลงเล็กน้อย พันมือแน่นและหนักขึ้นกว่าเดิม วิธีการชกคือ นักมวยเข้าหากันเป็นเส้นตรง ชกกันตลอดเวลาไม่มีการพักยกจนกว่าข้างนึงข้างใดจะยอมแพ้

ระยะที่สาม อยู่ในระหว่าง 400 ปี ก่อนคริสต์ศักราช ลงมาจนถึงสมัยโรมันรุ่งเรือง สมัยนี้การชกมวยเป็นการชกแบบการต่อสู้ของพวก Giadaiors ซึ่งอาจจะชกให้ตายไปข้างหนึ่ง

พ.ศ. 2458-2473 นับว่าเป็นระยะในการชกมวยในสหรัฐอเมริการุ่งเรืองถึงขีดสุด 

มวยสากลเข้าสู่สถานศึกษาครั้งแรกในมหาวิทยาลัยฮาวาโด เมืองแคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเชสต์ เริ่มศึกษากันอย่างจริงจังในระหว่างปี พ.ศ. 2429-2462 และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างเต็มที่ ถึงกับได้ตั้งสถาบันฝึกหัดมวยขึ้นโดยเฉพาะอีกแห่งหนึ่ง มีผู้สมัครเข้ารับการอบรมเป็นจำนวนมาก ในปีพ.ศ 2463

ได้บรรจุวิชามวยสากลเข้าในหลักสูตรมหาวิทยาลัย และโรงเรียนต่างๆ ให้กิจกรรมมวยสากลได้แพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันมวยสากล ได้กำหนดไว้ในวิชาพลศึกษาในโรงเรียนต่างๆทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้นักเรียนทุกคนฝึกเป็นศิลปะแห่งการต่อสู้ และป้องกันตัว และทำการแข่งขันระหว่างโรงเรียนเป็นประจำ เพื่อเป็นทางหนึ่ง ที่จะผลิตนักมวยสากลให้แก่สมาคมมวยสมัครเล่น และมวยสากลอาชีพต่อไป

Continue Reading

ลิโต อาดิวัง เปิดใจหลังได้สัญญานักกีฬาอาชีพของ One

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา รากการ Rich Franklin’s One Warrior Series (OWS) ได้นักกีฬาคนใหม่ล่าสุดแล้ว

เขาคือ ลิโต อาดิวัง เขาเป็นตัวแทนจาก Team Lakay และสามารถคว้าสัญญาอันยิ่งใหญ่ถึง 6 หลัก

และมุ่งสู่เวทีระดับโลก เขาได้เอาชนะ แอนโทนี โด ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์

แต่จากการได้ฟังคำเปิดใจของเจ้าตัว เขากลับดูไม่ค่อยพอใจผลงานของเขานัก เขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า จริงๆเขาไม่ได้พอใจกับผลงานของเขาในครั้งนี้นัก นั้นคือเขาไม่สามารถจบเกมส์ก่อนครบยก เขามีเป้าหมายในการแข่งวันนั้นไว้คือ ต้องชนะน็อกเอาต์ แอนโทนี โด เท่านั้น

เขาพยายามชกออกหมัดหลายชุดแต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถล้ม แอนโทนี โด ลงได้ เขาซึ่งเป็นนักชกจากเมือง บาเกียว พยายามอย่างหนกเพื่อที่จะทำน็อกเอาต์ เป็นครั้งที่ 3 ในรายการนี้ ซึ่งถ้าเขาทำได้เขาจะได้รับเงินโบนัสเพิ่มขึ้นมากโขเลย และในยกที่สาม เขาได้บอกไว้ว่า เขากังวลมาก เพราะเขาตั้งใจจะโชว์ผลงานที่ดีกว่านี้

ก่อนที่จะได้คว้าชัยชนะและค่อยได้รับการเซ็นสัญญา เขารู้สึกตัวเขาเองฝีมือตกไปในช่วงยกสุดท้าย ในการที่เขาต้องการชนะแบบขาดลอย แต่ที่เห็นคือมันเป็นกมที่มีความสูสีกว่าที่เขาคิดมาก ให้พูดกันตรงๆคือ เขาคิดว่าเขาจะคงจะอดได้รับสัญญานี้แล้ว แต่ในสิ่งที่ผู้ชมและเหล่ากรรมการได้เห็น แทบไม่ต้องคิดถึงเหตุผลอันใดที่ เขาผู้นี้ ลิโต อาดิวัง จะไม่ได้สัญญานี้

เพราะเขานั้นได้ทำให้พวกเราเห็นแล้วว่า เขามีฝีมือที่ฉกาจยิ่งนัก ครบเครื่องทุกกระบวนท่า และดุดันที่สุดบนเวทีนี้เลย เขาได้ชัยชนะเหนือผู้แข็งแกร่งทุกคนที่เขาได้เผชิญหน้าริช แฟรงคลิน ผู้บริหารของ OWS รวมถึงผู้บริหารคนอื่นๆ

ได้บอกว่า ลิโต อาดิวัง ได้สร้างความสุดยอดบนเวทีนี้ และพวกเขาไม่เคยผิดหวังเลย พวกเขาเชื่ออย่างสุดใจว่า เขาผู้นี้จะเป็นผู้ที่ทำให้การแข่งขันรุ่น สตรอว์เวต ของรายการนี้ มีสีสันขึ้นมาก คำพูดสุดท้ายในการสัมภาษณ์ของ ลิโต อาดิวัง คือ เขาพร้อม ต่อให้มีงานใหญ่ข้างหน้าที่เขาต้องเผชิญ

Continue Reading

ข่าวกีฬาที่หน้าสนใจในวันนี้

วันละคน : กุนซือ มักกะโรนี ผู้ชี้ชะตาอินเตอร์ มิลาน

 

อันโตนิโอ กอนเต หรือ อันโตนิโอ คอนเต้ แล้วแต่จะสะกดแต่ภาษาอังกฤษสะกดว่าAntonio Conte ก่อนจะมาเป็นกุนซือในวันนี้เรามาเช็คประวัติในอดีตกันหน่อยดีกว่าคอนเต้ นั้นอดีตเป็นกองกลางเลือดอิตาลี ลงเล่นครั้งแรกให้กับสโมสรเลชเช่ในช่วงปี1986 ต่อมาย้ายมาซบสโมสร "ม้าลาย" ยูเวนตุส ในตำแหน่งกองกลางเมื่อปี 1991 สนนราคาค่าตัว 3.6 ล้านยูโร และแจ้งเกิดกับยูเวนตุสในเวลาต่อมา

ยูเวนตุสยุคนั้นนำทีมโดนกองหน้าเทพบุตรเปียทองคำ โรแบร์โต้ บาจโจ้ (RobertoBaggio)

หรือที่เรารู้จักกันในนาม "บาจโจ้" และเปาโล ดิ คานิโอและเล่นต่อเนื่องมาถึงยุคของหงอกซ่า จิอันลุก้า วิอัลลี่ในปี 92/93จนมาถึงยุคแชมป์ในปี 96/97 และ 97/98 ที่มีสตาร์คับคั่งอย่าง ดิดิเย่ร์ เดชองส์,ซีเนดีน ซีดาน, เอ็ดการ์ ดาวิด, อเล็กซ์ซานโด เดล ปิเอโร่ และฟิลิปโป้ อินซากี้อันโตนิโอ คอนเต้ เล่นฟุตบอลจนถึงปี 2004 ก็แขวนสตั๊ด ทำสถิติลงเล่นทั้งหมด296นัด ทำได้ 29 ประตู ติดทีมชาติอิตาลีทั้งหมด 20 นัด ยิงไป 2 ประตู

 

คอนเต้ เริ่มอาชีพโค้ชครั้งแรกในปี 2006 กับทีม Arezzo ทีมเล็กๆ และมาคุม บาลี่ในปี2007-2009 พาบาลีได้แชม์ Italienischer Zweitligameister ในปี 08/09 แต่นับเป็น official
จริงจังก็นับที่ปี 2009 ที่เริ่มงานกับอตาลันต้า แข่งนัดแรกกับ คาตาเนียผลได้เพียงแค่เสมอ 0-0 แต่ปีนั้น คอนเต้ ยังอ่อนต่อโลกมากนัก อตาลันต้า

จบฤดูกาลได้แค่ที่ 18 และตกชั้นไปซีรีย์ บี ปีต่อมาได้ย้ายมาคุม เซียน่า ในซีรีย์ บีจบฤดูกาลได้อันดับ 2 ย้ายขึ้นไปเล่นเซเรีย อา อีกครั้ง แต่คอนเต้ไม่ได้ตามไปด้วย

ตัวเขาย้ายไปคุมกับทีมที่ทำให้โด่งดังอย่าง "ม้าลาย" ยูเวนตุส ในปี2011-2014ตลอดช่วงเวลาที่คุม ยูเวนตุส พาทีมได้แชมป์ลีก 3 ครั้งในปี 11/12, 12/13, 13/14และยังพาได้แชมป์ซูเปอร์ คัพ ในปี 13/14 โดยชนะ ลาซิโอ ในรอบชิงด้วยสกอร์ขาดลอย 4-0 นับเป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ของคอนเต้ เลยทีเดียว

Continue Reading

Philippe Coutinho อันดับ 9 ความคุ้มค่าของทีม Liverpool

ณ ช่วงเวลานึง คนๆนี้เป็นดังอนาคตของทีม หงษ์แดง

ที่มีแต่แฟนๆฟุตบอลรักใคร่เขา ต่อให้เป็นแฟนๆทีมอื่นก็ยอมรับการเล่นของเขาคนนี้ทั้งนั้น เขาคือ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ที่เป็นดั่งอนาคต แล้วก็เป็นดั่ง เด็กงอแง อย่างน่าเหลือเชื่อเขานั้นมีความสามารถระดับที่ติดอยู่ในทีมชาติเบอร์หนึ่งของโลกอย่าง บลาซิลมาตั้งแต่แรกๆเลยด้วยซ้ำ

เขาถูกซื้อมาจาก Inter Milan ด้วยค่าตัวแสนถูกถูกมากๆเทียบราคา ณ เวลานั้น เพียงแค่ 8.5 ล้านปอนด์เอง ถูกซื้อมาด้วยความคิดการไกลว่าเขาน่าจะมีสิทธิ์เป็นนักเตะระดับโลกได้ซึ่งเป็นการอ่านเกมของ หงษ์แดง ที่สำริดผลอย่างมาก


เริ่มตำนานของเขาอย่างสวยหรูเลยทีเดียว

เมื่อเขาเข้ามาในทีม หงษ์แดงเพียงในปีแรกเท่านั้น เขาก็สามารถโชว์ผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อเลย เขามีทักษะและเทคนิคระดับมาสเตอร์ ยอดเยี่ยมในการเลี้ยง ในการจ่ายบอลและเขายังมีลูกยิงสุดยอดจริงๆ เขานั้นเป็นดั่งหัวใจของ หงษแดง จนใครๆต่างหวังในตัวเขาเป็นอย่างสูง เขาเป็นดั่งพ่อมดแห่งวงการฟุตบอลก็ว่าได้

แต่ก็น่าเสียดายยิ่งนักที่พรสวรรค์เขาดันไปเขาตาหลายๆทีม โดยเฉพาะ บาร์เซโลน่าที่ต้องการตัวเขาให้จนได้ แล้วก็ทำได้จริงๆ นั้นทำให้ คูตี้นักเตะมากพรสวรรค์กลายมาเป็นนักเตะขี้แงตัดสินใจทำอะไรก็ดูสร้างปัญหาให้ทีมโดยตลอด

นั้นทำให้ความสามารถของเขานั้นถูกบดบังด้วยสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักเมื่อเขาได้ไปอยู่กับ ยานแม่ ความสามารถเขาก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใดแต่ก็โชว์ฟอร์มได้ไม่น่าสนใจเหมือนเดิม นั้นอาจเพราะโดนเทพเจ้าของ บาร์ซ่า อย่างเมสซี่ หรือ ซัวเรส บดบัง แล้วกลายเป็นเขาไม่สามารถทำเกมเด่นของตัวเองได้เลย

เมื่อเป็นเช่นนั้น บาร์ซ่า จึงรู้สึกว่าตัวเขานั้นไม่ค่อยจำเป็นต่อทีมนักแล้วต้องการปล่อยออกไป ทำให้เกิดประเด็ดดราม่า ที่ค่าตัวอันสูงริวของเขานั้นไม่มีใครยากแรกมาเพราะพรสววค์เขานั้นยังไม่สมควรกับค่าตัวระดับนั้น

ตอนนี้ก็กลายเป็นให้ทีม เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ยืมตัวพร้อมโปรโมชั่นซื้อขาดซะแล้วแต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ระหว่างที่เขายังอยู่ที่ หงษ์แดงเขานั้นเป็นนักเตะที่คุ้มค่าตัวสุดๆคนนึงอย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย

Continue Reading

20 ผู้เล่นยอดเยี่ยมของ อาร์เซน่อล ในยุค อาร์แซน เวนเกอร์ 

 

 

อันดับที่ 7 เชสก์ ฟาเบรกาส (Cesc Fabregas) 2003 – 2011
กองกลางอัจฉริยะ ที่ อาร์เซน่อล สามารถไปลักพาตัวมาได้จากศูนย์ฝึกเยาวชน ลา
มาเซีย ของ บาร์เซโลน่า ซึ่งในช่วง 17
ปีที่อยู่ภายใต้การดูแลของยอดกุนซือชาวฝรั่งเศส อย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ทำให้เพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนกลายเป็นเพชรน้ำงามเม็ดหนึ่งของโลก

ด้วยความสามารถในการผ่านบอลที่แม่นยำ การครองบอลที่เหนียวแน่น
และความคิดสร้างสรรค์ในการทำเกมส์ ฟาเบรกาส

กลายเป็นกองกลางอัจฉริยะที่หลายทีมยักษ์ใหญ่ทั่วโลกต้องการตัว
และสุดท้ายเมื่อถึงจุดอิ่มตัวกับต้นสังกัดที่ปลุกปั้นเขามาอย่าง อาร์เซน่อล มันก็ถึงเวลาที่จะต้องทำตามความฝันของตัวเอง ฟาเบราส
จึงตัดสินใจอำลาทีมกลับบ้านไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2011
ทีมที่เขาเคยเล่นให้ในสมัยวัยเด็ก

 

 

อันดับที่ 6 โซล แคมป์เบล (Sol Campbell) 2001 – 2006 และ 2010
โซล แคมป์เบล อดีตผู้เล่นของ สเปอร์ ที่หาญกล้าย้ายมาอยู่กับทีมอริตลอดกาล
ไม่มีวันญาติดีกัน อย่าง อาร์เซน่อล แบบฟรีๆ ในปี 2001
แน่นอนว่าสร้างโกรธแค้นให้กับแฟนๆ ไก่เดือยทอง เป็นอย่างมาก
แต่กลับเป็นความสะใจของเหล่าบรรดา กูนเนอร์ส แบบสุดๆ
ทว่างานนี้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังจริงๆ คือ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้ที่สามารถโนวน้าวใจให้
แคมป์เบล กล้าที่จะเสี่ยงชีวิตย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล
และแน่นอนว่าการเสี่ยงครั้งนี้ให้ผลที่คุ้มค่า แคมป์เบล กระโดดขึ้นมาเป็นกองหลังคนสำคัญของ อาร์เซน่อล ในเวลาไม่นาน
และทำผลงานให้กับทีมได้อย่างสุดยอด ความแข็งแกร่ง ความดุดัน

เวลาที่เขาลงเล่นในสนาม ถือเป็นขวัญกำใจที่สำคัญของทีม แม้จะเขาจะอยู่กับอาร์เซน่อล เพียง 5 ปี และต้องย้ายออกไปเป็นนักเตะพเนจรอยู่หลายปีแต่สุดท้ายในปี 2010 เขาก็ได้กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง และหลังจบฤดูกาล แคมป์เบลก็ตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ

 

 

อันดับที่ 5 โรแบร์ ปิแรส (Robert Pires) 2000 – 2006
ปีกซ้ายหน้าตาดีละลายใจสาว ผู้ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา
แต่ลีลาการเล่นฟุตบอลถือว่าอยู่ในระดับสุดยอดเช่นเดียวกัน
หากลองนึกถึงสุดยอดปีกของทีม อาร์เซน่อล แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อ ปิแรส
ติดมาอยู่ในอันดับต้นๆ แน่นอน ด้วยลีลาการเลี้ยงบอลที่พลิ้วไหว
และเทคนิคความสามารถเฉพาะตัวที่จัดจ้าน

ทำให้เขาพังประตูคู่ได้ถึง 84 ประตู
ตลอดช่วงเวลา 6 ปีที่อยู่กับสโมสร และแม้ตำแหน่งที่ถนัดที่สุดของเขาจะเป็น ปีกซ้ายแต่เขาก็สามารถขยับเข้ามาเล่นตรงกลาง รวมถึงเป็นหน้าต่ำได้แบบสบาย นั่นทำให้ปิแรส เป็นนักเตะที่ครบเครื่องแบบสุดๆ

Continue Reading