ปัญหา VAR ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

หลังจากที่โลกฟุตบอลปัจจุบันในยุคสมัยนี้ ได้มีเทคโนโลยีมากมาย เข้ามาเป็นตัวช่วยในเกมการแข่งขันฟุตบอลให้มีความยุติธรรม และมีการตัดสินที่ถูกต้องแล้วนั้น ทำให้การแข่งขันฟุตบอลในแต่ละลีกแต่ละประเทศนั้น ลดการตัดสินที่ผิดพลาดกันอย่างได้ชัดมากขึ้น และลดปัญหาการที่จะต้องมานั่งถกเถียงกันหลังเกมไปได้เยอะมาก เพราะภาพ VAR ทุกอย่างมันฟ้องและเป็นตัวชี้วัดอย่างชัดเจนอยู่แล้ว

แต่ล่าสุดปัญหาก็เกิดขึ้นจนได้ จากลีกประเทศอังกฤษ นั่นก็คือพรีเมียร์ลีก ที่เรียกได้ว่าเป็นลีกฟุตบอลอันดับหนึ่งที่มีผู้คนทั่วโลกเฝ้าติดตามมากที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วการใช้ VAR นั้นเป็นเพียงเครื่องมือช่วย เพื่อให้ทางผู้ตัดสินได้ทำการทบทวนและมีการตัดสินใจจากภาพที่เห็นได้ชัดจากหน้าจอบนทีวีอีกครั้ง

เพื่อความถูกต้องในการตัดสิน แต่ปัญหาที่เกิดมันก็ยังเกิดกับวิจารณญาณ ของตัวผู้ตัดสินเห็นเมื่อเห็นภาพทุกอย่างอยู่บนจอ VAR แล้วนั้น ก็ยังดันทุรังใช้ความรู้ความสามารถในวิชาชีพของการเป็นผู้ตัดสิน ตัดสินเกมแบบผิดๆ ในลักษณะที่ค้านสายตาของผู้ชมแฟนบอลทั่วโลก ที่พวกเค้าเหล่านั้นก็เห็นภาพจอ VAR เหมือนที่ผู้ตัดสินเห็น นั่นจึงกลายทำให้เกิดเป็นประเด็นดราม่ากันขึ้นมาสำหรับการตัดสินฟุตบอลในศึกพรีเมียร์ลีกของประเทศอังกฤษ

และเหตุการณ์เหล่านี้ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่เป็นการเกิดขึ้นหลายๆครั้งเหลือเกินที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกเริ่มตั้งคำถามว่า กรรมการในพรีเมียร์ลีก ตัดสินฟุตบอลกันเป็นจริงๆแล้วใช่หรือไม่ ซึ่งเรื่องราวนี้ที่เกิดขึ้น ก็ทำให้นักวิจารณ์หรือผู้สื่อข่าวทั่วโลกต่างออกมาวิเคราะห์กับสถานการณ์แบบนี้ที่เกิดขึ้นกันว่า สาเหตุที่การตัดสินผิดพลาดมักเกิดขึ้นในฟุตบอลอังกฤษ

จากการที่มีเทคโนลียีอย่าง VAR เข้ามาเป็นตัวช่วยแล้วก็ตาม ซึ่งทุกๆคนหลายๆสำนักต่างลงความเห็นกันว่า น่าจะเกิดจากความไม่เชี่ยวชาญและความไม่ช่ำชองในการใช้เทคโนโลยีนี้ ทั้งๆที่ลีกชั้นนำต่างๆ อย่าง บุนเดสลีกา ของประเทศเยอรมัน ศึกลาลีกา ของประเทศเสปน  กัลโช่ ซีเรียอา ของประเทศอิตาลี หรือแม้กระทั่งลีกเอิง ของประเทศฝรั่งเศส ก็มีการใช้เทคโนโลยีนี้กันอย่างโครมๆ

แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร และประเทศอังกฤษนั้น ก็ถือว่าเป็นลีกชั้นนำที่ได้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เป็นประเทศหลังสุดเสียด้วยซ้ำ แต่กลับไม่ได้มีการศึกษาตัวอย่างของลีกเพื่อนบ้านแต่อย่างใด จนทำให้เกิดหลายๆกรณีที่ผิดพลาดขึ้นมา ซึ่งการตัดสินเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อทีมที่เสียผลประโยชน์อย่างมหาศาล เพราะวงการฟุตบอลในสมัยนี้นั้น ไม่ใช่เป็นแค่เกมกีฬาแล้ว แต่มันเป็นธุรกิจที่ต้องเกี่ยวข้องกันมาด้วยแล้ว

 

สนับสนุนโดย  Gclub ฟรี 100

Continue Reading

เจ็ดปีแห่งความทรงจำที่แสตมฟอร์ดบริดจ์

เรียบร้อยและเป็นที่ชัดเจนแน่นอนแล้วกับข่าวการอำลาทีมของ วิลเลี่ยม ปีกชาวบราซิเลี่ยน ของสโมสรเชลซีในกรุงลอนดอน หลังจากที่รับใช้ให้กับสโมสรมายาวนานถึงเจ็ดปี สุดท้ายก็ถึงวันต้องอำลา เพราะงานเลี้ยงย่อมต้องมีวันเลิกรา ซึ่งเมื่อไม่สามารถตกลงเงื่อนไขการต่อสัญญากันได้จึงทำให้นักเตะต้องหาสังกัดใหม่ ซึ่งตอนนี้ก็คงไม่พ้นรังปืนใหญ่อาร์เซนอลแน่นอน

เพราะทางปืนใหญ่เองนั้น พร้อมที่จะยื่นข้อเสนอสัญญาสามปีให้กับนักเตะคนนี้ พร้อมกับออปชั่นต่อสัญญาให้อีกหนึ่งปีด้วย แต่ทางเชลซีเองนั้นยื่นให้เพียงแค่สองปีเท่านั้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่จะทำให้นักเตะย้ายมาที่อาร์เซนอลเกือบค่อนข้างแน่ อีกทั้งตลอดระยะเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมานั้น ครอบครัวของวิลเลี่ยม ก็ปรับตัวได้ดีกับชีวิตในเมืองหลวงของอังกฤษนับ

ตั้งแต่ย้ายมาจากชัตเตอร์โดเน็ต ในประเทศรัสเซีย รวมถึงการที่อาร์เซนอล ก็มี ดาวิด หลุยส์ อดีตเพื่อนร่วมทีมของเชลซี รวมทั้งเพื่อนร่วมทีมชาติบราซิลเล่นอยู่ด้วยแล้วนั้นจึงทำให้ดีลนี้ไม่น่าจะพลาดไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการจากกันครั้งนี้ระหว่างนักเตะกับสโมสร ก็ถือว่าเป็นการจากกันด้วยดี

ถึงแม้จะไม่สามารถตกลงสัญญาอะไรกันได้อีกต่อไป แต่ตัวนักเตะเองก็ได้ออกมาโพสต์ในไอจีของตัวเอง และพูดถึงสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีม สต๊าฟโค๊ช บอร์ดบริหาร และแม้แต่ผู้จัดการทีมคนก่อนๆที่เค้าได้เคยร่วมงานกันด้วยอย่างมากมาย รวมถึงแฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่เคยเป็นทั้งเพื่อนร่วมทีมและตอนนี้ได้กลายมาเป็นหัวหน้ากับลูกน้อง อีกทั้งยังเล่าถึงความทรงจำดีๆ อย่างมากมาย

ในการพาทีมคว้าแชมป์ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก แชมป์เอฟเอคัพ แชมป์คาร์ลิ่งคัพ และแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก รวมไปถึงแชมป์ยูโรป้าลีก ซึ่ง นักเตะคนนี้ได้ร่วมทีมสิงห์บลู กวาดแชมป์มาหมดแล้ว คราวนี้เราคงต้องติดตามดูเส้นทางในอาชีพนักเตะของเค้าต่อไปว่าจะทำได้ดีขนาดไหนกับสโมสรใหม่

ซึ่งคาดว่าคงจะเป็นปืนใหญ่อาร์เซนอล ซึ่งตัวเค้าเองนั้น จะช่วยพาให้ปืนใหญ่ กลับมาครองความยิ่งใหญ่ได้อีกหรือไม่ แต่ที่รู้แน่ๆว่า หากอาร์เซนอล ของมิเกล อาร์เตต้า ได้ วิลเลี่ยม ไปร่วมทีมจริงๆแล้วนั้น คาดว่าจะเป็นดีลที่คุ้มที่สุดที่ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่ยื่นข้อเสนอสัญญาสามปีที่นักเตะต้องการก่อนจะเลิกเล่นฟุตบอล แค่นี้พวกเค้าก็ได้ของดีแบบไม่ต้องเสียเงินในการซื้อตัวเลย

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

Continue Reading

บัวขาวไลฟ์สดแสดง ลีลาการตำส้มตำ 

           หากพูดถึงชื่อบัวขาวย่อมรู้จักกันดีว่าเขานั้นเป็นนักมวยซึ่งเป็นขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศซึ่งแน่นอนว่านอกจากการชกมวยแล้วในบางครั้งบัวขาวก็ยังมาแสดงละครให้พวกเราได้ชมกันอย่างไรก็ตามหลักๆแล้วบัวขาวยังคงเป็นนักมวยและเขาได้มีการเปิดค่ายมวยเพื่อสอนคนที่สนใจอยากจะชกมวย

ซึ่งกระแสของบัวขาวนั้นยังคงดังอย่างต่อเนื่องเพราะยังคงมีนักมวยจากต่างประเทศหลากหลายค่ายที่ต้องการมาชกกับบัวขาวเนื่องจากว่าเขาเป็นนักมวยที่มีการชกแล้วยังไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับใครเลยอย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้ในโลกออนไลน์ได้มีกระแสของบัวขาวเกิดขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่งเมื่อบัวขาวใดว่างจากงานชกมวยแล้วออกมาสร้างกระแสใหม่ด้วยการตําส้มตําโชว์ในระบบออนไลน์

ซึ่งเขาได้มีการไลฟ์สดขณะที่เขานั้นนั่งตำส้มตำอยู่ที่พื้นกลางทุ่งนาซึ่งวิวด้านหลังของเขานั้นก็จะมีการกระท่อม ที่เราเรียกว่ากระท่อมปลายนาอีกทั้งยังมีนาข้าวเป็น View background อยู่ด้านหลังโดยมีบัวขาวใส่เสื้อสีแดงนั่งตำส้มตำด้วยครกขนาดใหญ่มหึมาที่สำคัญลีลาการตำส้มตำของเขานั้นไม่เหมือนใครและก็ยังมีการโชว์การใส่ปลาร้า

ซึ่งปลาร้าดังกล่าวนั้นเป็นปลาร้าที่เป็นแบรนด์สินค้าของเขาเองชื่อว่าปลาร้าบัญชาเมฆซึ่งใครๆที่เข้ามาดูการไลท์ตำส้มตำของเขาต่างก็ถูกอกถูกใจกันเป็นอย่างมากเพราะลีลาการตำส้มตำที่ดุเด็ดเผ็ดมันแล้วยังมีการบีบมะนาวโชว์รวมถึงการชิมให้ดูว่ารสชาติส้มตำของเขานั้นอร่อยมากมายแค่ไหนนี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยนั้น

ต่างก็ให้ความรักความเมตตาบัวขาวเพราะเขานั้นมีสไตล์ที่เป็นของตนเองและเป็นนักมวยที่เป็นนักมวยบ้านๆอย่างแท้จริงซึ่งหลังจากที่ไลฟ์สดนี้มีการเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามากดไลค์แสดงความชื่นชมเขาเป็นอย่างมากเรียกได้ว่ารุ่งทั้งเรื่องของการชกมวยและถึงจะไลค์ขายของก็ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองได้

หากใครที่อยากจะรู้ว่าปลาร้าของบัวขาว  บัญชาเมฆอร่อยหรือไม่ก็สามารถหาซื้อมาทดลองกินได้ซึ่งนับได้ว่าเป็นการสนับสนุนสินค้าแบรนด์ของไทยและทำให้คนไทยนั้นมีรายได้ทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นได้เช่นเดียวกัน และจากคลิปนี้เชื่อว่าใครที่ได้เห็นลีลาของการตำส้มตำของ บัวขาว คงอยากจะกินส้มตำกันจนน้ำลายสอกันเลยทีเดียว  ซึ่งคลิปนี้แฟนๆของบัวขาวต่างก็ชอบใจกันมาก

 

 

สนับสนุนโดย  แอพคาสิโน ได้เงินจริง

Continue Reading

ฤดูกาลตัดสินชะตาของแฟรงค์ แลมพาร์ด

การจบอันดับด้วยอันดับสี่ และสามารถพาทีมกลับไปเล่นศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกได้ โดยที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทีม และอีกทั้งการเป็นกุนซือใหม่ที่เข้ามาคุมทีมเพียงแค่ปีแรก และทำได้แบบนี้เรียกว่าเป็นผลงานที่สุดยอดแทบจะหาที่ติไม่ได้ ซึ่งถือว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือคนปัจจุบันนั้นมีฝีมือที่ไม่ธรรมดาและน่าจับตามองเป็นอย่างมาก

แต่มาปีนี้กับการเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกพรีเมียร์ลีกและต่อกรกับพวกบิ๊กเนมต่างๆ นั้น เชลซี จำเป็นต้องมีการเสริมทัพ โดยล่าสุดนั้นกุนซือหนุ่ม ได้มีการเร่งเสริมทัพนักเตะเข้ามาอย่างมากมาย ไล่ตั้งแต่คนแรกก่อนที่จะปิดฤดูกาลเสียอีก นั่นคือ ฮาคิม ซีเย็ค กองกลางชาวโมรอคโค วัยยี่สิบเจ็ดปี ของอาแจ๊กซ์ ด้วยค่าตัวสามสิบเจ็ดจุดแปดล้านปอนด์

ต่อจากนั้นก็ได้ตัวกองหน้าชาวเยอรมันอย่าง ติโม แวร์เนอร์ จากไลป์ซิค สโมสรในประเทศเยอรมันมาอีกด้วยค่าตัว ห้าสิบสี่ล้านปอนด์ และยังมีการเสริมดาวรุ่งชาวดัตช์วัยสิบแปดปี มาร่วมทีมจากเจ้าบุญทุ่มอีก และล่าสุดนั้นก็ได้ตัวแบ๊กซ้ายอย่าง เบน ชิลเวลล์ เข้ามาร่วมทีมจากสุนัขจิ้งจอกเลสเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยค่าตัวห้าสิบล้านปอนด์ และยังอาจจะได้ตัว ติอาโก ซิลวา จากปารีสมาแบบฟรีๆอีก

เรียกได้ว่าฤดูกาลนี้ แลมพาร์ด เสริมทัพนักเตะและใช้เงินไปเกือบสองร้อยล้านปอนด์แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ทางสโมสรต้องการจากกุนซือหนุ่มคนนี้ในฤดูกาลนี้อาจจะไม่ใช่แค่พื้นที่ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกเท่านั้น แต่อาจจะต้องการถ้วยใดถ้วยหนึ่งเข้ามาตั้งโชว์ที่ตู้สโมสรด้วย ซึ่งมันหมายความว่าฤดูกาลที่แล้วทำได้ดีมากแค่ไหน

ฤดูกาลนี้ต้องดีกว่าเดิม เพราะถือว่าได้เรียนรู้และเสริมภูมิต้านทานในระดับพรีเมียร์ลีกไปแล้ว นั่นจึงเป็นบททดสอบในตอนนี้ของกุนซือหนุ่มคนนี้ว่า เค้าดีพอที่จะขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่และคุมบังเหียนทีมระดับท๊อปซิกซ์ของพรีเมียร์ลีกหรือไม่ ซึ่งหากว่ากันตามตรงแล้วนั้น

ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์น่าจะเป็นเรื่องยากและไกลเกินตัวสำหรับเค้า เพราะด้วยก้างขวางคอชิ้นสำคัญ และไม่ได้มีแค่ก้างเดียว แต่ที่ก้างโตๆก็มีสองก้างคือ เรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ซิตี้ กับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล แถมยังไม่รู้ว่าฤดูกาลที่จะถึงนี้ ผีแดงจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้หรือไม่

แต่ก็ไม่อาจจะประมาทได้เพราะช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมานี้ผีแดงเรียบว่าฟอร์มครบเครื่องและน่ากลัวจริงๆ ดังนั้นเชื่อว่า แลมพาร์ด คงต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักแน่นอน

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์ ฝากขั้นต่ำ 50

Continue Reading