แนวความคิดของนักเตะระดับโลก

เรื่องรางและแนวคิดของนักเตะระดับโลก โรบิน ฟานเพอร์ซีย์อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เปลี่ยนแนวความคิดไปตลอดกาลได้ สำหรับโรบิน ฟานเพอร์ซีย์นั้นในครั้งที่เขาได้ย้ายเข้ามาสู่การเป้นผู้เล่นของสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างอาเซนอลในช่วงแรกของการย้ายมานั้นถือว่าเขาเป็นนักเตะในระดับดาวรุ่งและมีพรสวรรค์ทางด้านกีฬาฟุตบอลอย่างมากแต่ก็ต้องยอมรับว่าในยุคนั้นทีมอาเซนอลก็เต็มไปด้วยนักเตะในระดับตัวท็อปของโลกโดยเฉพาะนักเตะดาวรุ่งรุ่นพี่กองหน้าของอาเซนอลในขณะนั้นก็คือ แบร์คกัมป์ 

ในตอนแรกฟานเพอร์ซีย์นั้นก็คิดว่าพรสวรรค์และความสามารถของตัวเองที่มีนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้ว แต่เมื่อเขาได้ย้ายมาอยู่อาเซนอลและเห็นการเล่น

และการฝึกซ้อมของแบร์คกัมป์ ทำให้เขานั้นเปลี่ยนความคิดไปเลยในทันที ในตอนแรกนั้นฟานเพอร์ซีย์มีความคิดในขณะที่ฝึกซ้อทว่าเขานั้นจะเล่นและทำเกมส์ก็ต่อเมื่อที่แบร์คกัมป์นั้นพลาด แต่ปรากฎมาในช่วงเวลาการฝึกซ้อม45นาทีนั้นแบร์คกัมป์ไม่พลาดจากการทำประตูเลยสักครั้งเดียว นั่นหมายความว่าตลอดระยะเวลา 45 นาที ในการฝึกก็คือไม่มีครั้งไหนเลยที่แบร์คกัมป์นั้นพลาดการจ่ายและการทำประตูนั่นเอง ทำให้ฟานเพอร์ซีย์นั้นมองว่าเป้นที่น่าเฟอร์เฟ็คที่สุด

ฟานเพอร์ซีย์ยังพูดต่อว่าเขานั้นคอยดูว่าแบร์คกัมป์จะพลาดเมื่อใดแต่สิ่งที่ปรากฎก็คือเขาไม่พลาดเลย สิ่งที่น่าสนใจและทำให้ฟานเพอร์ซีย์นั้นตกใจก็คือ ความคิดและทัศนคติของแบร์คกัมป์ เพราะถึงแม้ว่าการเล่นฟุตบอลนั้นเขาจะสามารถทำประตูได้ทุกลูกและโอกาสในการผิดพลาดนั้นแทบจะเป็นศูนย์ แต่สิ่งหนึ่งที่ฟานเพอร์ซีย์สนใจและนำความคิดและทัศนคติของแบร์คกัมป์มาใช้นั้นคือการที่เขานั้นยังไม่พอใจในฝีเท้าและการเล่นของเขาแม้สักนิดเดียว เขาต้องการทำมันให้ดีกว่านี้

ทำให้ฟานเพอร์ซีย์มองเห็นตัวเองและพยายามฝึกฝนที่จะพัฒนาตัวเองนั้นให้เก่งแบบแบร์คกัมป์ เขายังพูดต่อว่าหลังจากเหตุการณ์วันนั้นที่เขาได้พูดคุยกับแบร์คกัมป์ การฝึกซ้อมและฝึกฝนของเขา เขาได้ทุ่มเทและทำมันอย่างเต็มที่มากขึ้นมีความมุ่งมั่นที่จะฝึกซ้อมมากขึ้นและทำทุกวันให้เป็นเหมือนการแข่งขันเสมอ สิ่งหนึ่งที่ฟานเพอร์ซีย์นั้นคิดอยู่เสมอก็คือ การแข่งขันกับตัวเองและทำทุกอย่างให้ออกมาเฟอร์เฟ็คที่สุดและต้องตรงกับความต้องการของตัวเองและไม่มานั่งเสียใจที่หลัง

สิ่งเหล่านี้นั่นเองจึงเป็นที่มาที่ทำให้เขานั้นสามารถขึ้นมาสู่การเป็นนักเตะในระดับท็อปของโลกได้อย่างรวดเร็ว เพียงปรับความคิดและทัศนคติที่มี เพียงเท่านี้ก็จะกลายเป็นนักเตะที่ไร้ขีดจำกัดในตัวเองได้

 

 

สนับสนุนโดย    บาคาร่า sa

Continue Reading

ความตั้งใจของเมซซี่เจ

เมสซี่เจ ถือเป็นยอดนักเตะขวัญใจชาวไทยอย่างมาก เนื่องจากเต้านั้นเป็นนักเตะที่มากความสามารถ สามารถที่จะเข้าสู่วงการและเป็นแถวหน้าของวงการฟุตบอลแห่งประเทสไทยได้ในช่วงอายุไม่มากนักและประสบผลสำเร็จในช่วงเวลาที่รวดเร็ว อาจจะเรียกว่าพรสวรรค์ที่เมสซี่เจนั้นมีมาแต่เกิดก็ว่าได้แต่ก็รวมถึงพรแสวงของตัวเมสซี่เจเองด้วย อย่างที่หลายคนรู้ว่าคุณพ่อของเขานั้นเป็นอดีตนักฟุตบอลเก่าทำให้เขานั้นได้มีการเรียนรู้จากคุณพ่อของเขานั่นเอง

ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค วิธีการเล่น และการเล่นอย่างมืออาชีพ เรียกว่าลูกไม้นั้นหล่นไม่ไกลต้นเลย เมสซี่เจเคยกว่าไว้ว่าการที่เข้านั้นสามารถเดินทางมาจุดนี้ได้นั้นทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่มาจากความตั้งใจของเขาทั้งสิ้น ซึ่งความตั้งใจในการเดินทางเส้นทางสายอาชีพนักกีฬาฟุตบอลนั้นก็มาจากความตั้งใจต่างๆเหล่านี้

สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง เป็นสิ่งที่เขานั้นถูกปลูกฝังมาเป็นอย่างดี เพราะการเล่นฟุตบอลถึงแม้จะเป็นสิ่งที่เขานั้นรักและชอบมาตั้งแต่เด็กจากการเห็นคุณพ่อและการถูกปลูกฝังการเล่นต่างๆจากคุณพ่อของเขาด้วย ทำให้สิ่งที่คิดได้ในช่วงวัยนั้นคือการเป็นนักกีฬาฟุตบอลที่เก่งและสามารถพาตัวเองไปยังจุดสูงสุดของชีวิตโดยการสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองนักเป็นนักเตะที่ถูกจำชื่อได้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยและฟุตบอลโลก

สร้างชื่อเสียงให้กับทีมชาติเป็นหนึ่งความตั้งใจที่นอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองแล้วการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติเป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังจากคุณพ่อเช่นกันเมื่อถูกปลูกฝังมาแล้วความตั้งใจของเขาจึงการพาทีมชาติไทยนั้นไปสู่วงการฟุตบอลในระดับที่สูงและทำให้วงการฟุตบอลนั้นรู้จักขาในฐานะนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยนั่นเอง

การนำเสนอเทคนิคและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเล่นของไทยและต่างประเทศ เขาได้รับโอกาสอย่างดีมาโดยตลอดด้วยความสามารถของเขาจนเขานั้นได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการเข้าสู่วงการฟุตบอลในระดับเอเชีย โดยกรย้ายไปค้าแข้งในทีมชื่อดังแห่งญี่ปุ่นอย่างคอนซาโดเลซัปโปโรทีมเก่าแก่แห่งเจลีก ถือว่าเป็นประสบการณ์ทีททำให้เขานั้นได้มีการแบ่งปันทักษะ เทคนิคและการเล่นต่างๆรวมถึงการเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ เพื่อใช้ในการพัฒนาตัวเองให้สามารถก้าวไปสู่วงการกีฬาฟุตบอลที่สูงขึ้น

การเป็นแบบอย่างที่ดีให้เยาวชนในสังคมไทย ถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้เรียกได้เต็มปากว่าเป็นนักเตะเยาวชนที่ดี แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่เขานั้นได้ค้าแข้งในวงการฟุตบอลไทยนั้น เขาก้แสดงความสามารถและทำหน้าที่นักเตะคนหนึ่งอย่างดีมาตลอดเต็มความสามารถของเขาและเขาหวังอย่างยิ่งว่า การฝึกฝนและความตั้งใจต่างๆที่เขานั้นได้ถ่ายทอดให้เยาวชนได้รับรู้นั้นจะเป็นตัวอย่างและเป็นแรงผลักดันในการตามความฝันของเด็กไทยในอนาคตได้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    บาคาร่า sa

Continue Reading

เอาละเว้ย ขุมกำลังแมนซิตี้

น่าสนใจทีเดียวกับประเด็นการเสริมทัพของแมนซิตี้ เรือใบสีฟ้ากับการที่กำลังจะได้ตัว คูลิบาลี่ กองหลังจอมแกร่งจากนาโปลีมาร่วมทีม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ นาธาน อาเก้ มาคนหนึ่งแล้ว แต่ทางเป๊ป ก็ยังคงมองหาแนวรับที่มีสไตล์การเล่นคล้ายกับอดีตปราการหลังกัปตันทีมอย่าง กอมปานี ที่สามารถยืมเป็นแกนหลักสั่งและคุมเกมรับได้จริงๆ คราวนี้หากมานั่งไล่นับกองหลังตัวกลางของแมนซิตี้นั้น

ตอนนี้ขุมกำลังเรียกได้ว่าเต็มสูบ เพราะมีถึงหกคนด้วยกันไล่ตั้งแต่ตัวเก่าอย่างแฟร์นันดิญโญ่ที่ตอนนี้ถูกปรับตัวเองมาเล่นเกมรับและเป็นแนวสั่งการ แต่ก็ใกล้ปลดระวางเต็มทีแล้ว ส่วนอีกคนก็เป็น ลาป๊อก ซึ่งหากไม่เจ็บยังไงคนนี้ก็ต้องเป็นตัวหลักแน่นอน ก็จะเหลืออะไหล่ชั้นดีไว้คอยเปลี่ยนตามสถานการณ์ว่าจะเจอแนวกองหน้าของคู่แข่งแบบไหน

ก็จะมี โอตาเมนดี้  จอนห์ สโตน และตัวใหม่อย่าง นาธาน อาเก้ ซึ่งหากได้คูลิบาลี่ มาก็น่าจะมายืนคู่กับ ลาป๊อก แน่นอน แล้วอาจจะปรับแฟร์นันดิญโญ่ ไปเล่นกลางตัวรับเหมือนเดิม คอยสลับเปลี่ยนกับโรดี้ ส่วนตัวสแตนบายน์ ในแผงหลังก็จะมีสามคนที่เหลือตามที่กล่าวมา ซึ่งเท่ากับว่าแผงรับของแมนซิตี้ ค่อนข้างจะลงตัวในกองหลังตัวกลางแล้ว

สืบเนื่องก็น่าจะมาจากบทเรียนราคาแพงเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ทางเรือใบเองไม่ซื้อกองหลังเพิ่ม แล้วเมื่อตัวหลักอย่างลาป๊อกบาดเจ็บ ก็ไม่สามารถหาใครมาทดแทนได้ จริงอยู่ที่ โอตาเมนดี้ กับ จอนห์ สโตน ก็มีฝีเท้าดีในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่อาจทดแทนลาป๊อกได้ ส่วนแฟร์นันดินโญ๋ คงทำได้เพียงคุมจังหวะและสั่งการ หากจะให้ไปเบียดไล่วิ่งตามคู่ต่อสู้ คงไม่ใช่อีกต่อไป ซึ่งหากใครเป็นแฟนแมนซิตี้ ก็น่าจะจำได้ดีว่า ช่วงที่แมนซิตี้ทำแต้มหล่นหายไปนั้นก็คือช่วงที่ลาป๊อกได้รับบาดเจ็บแล้วกองหลังแมนซิตี้ มักจะพลาดท่าเสียประตูแบบไม่น่าเสียหลายต่อหลายครั้ง

ดังนั้นเหมือนกับว่าตอนนี้ทางยอดผู้จัดการทีมเรือใบสีฟ้า อย่างเป๊ป จะสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้แล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าในแนวรุกอาจจะไม่ได้เมสซี่แล้ว แต่ก็ต้องพูดกันตามตรงว่าจุดนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะแนวรุกทุกตัวของเรือใบเรียกได้ว่ายิงประตูกันได้แทบทุกคน แต่ก็ยังเชื่อว่าหลังจากจบดีลคูบาลี่แล้วนั้น เป๊ปอาจจะมีการเสริมกองกลางในสไตล์เกมบุกอีกสักคนเพื่อทดแทนการขาดหายไปของดาบิล ซิลบา ที่อำลาสโมสรกลับไปเล่นที่เสปนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่า sa

Continue Reading